วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV) บนโทรศัพท์ มือถือ iPhone/ipad1,2

วิธีการดูภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV) บนโทรศัพท์ มือถือ iPhone/ipad1,2
Sunday, 17 October 2010 21:15
       
      วิธีการดูภาพจากกล้องวงจรปิด ผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone/ iPad 1 / iPad 2 นั้นทำได้ไม่ยากครับ
เราจะต้องดูผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า Eagle Eyes ครับ
ถ้าระบบวงจรปิดของคุณนั้นได้รับการติดตั้งจากเราแล้วทำตามขั้นตอนข้างล่าง นี้รับรองว่าไม่พลาดครับ

ดาวน์โหลดโปรแกรม Eagle Eyes ลงบน iPhone/ iPad 1 / iPad 2 ของคุณ
1. บนหน้าเมนูหลักบนไอโฟนของคุณ กดเลือกโปรแกรม “App Store” ขึ้นมาครับ
2. เมื่อเรียก App Store ขึ้นมาแล้วให้ดูที่แถบตัวเลือกด้านล่างแล้วกดเรียก “Search” ขึ้นมาเพื่อพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่เราต้องการค้นหา
3. ให้พิมพ์ชื่อโปรแกรม “eagleeyes” (ไม่มีวรรค) ลงไปแล้วกด search หากว่าไอโฟนของคุณสามารถติดต่ออินเตอร์เน็ตได้ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาสอง โปรแกรมครับ เป็น Eagle Eyes ทั้งคู่ให้เลือก Eagle Eyes Lite ครับ
4. เมื่อเลือก Eagle Eyes-Lite  ขึ้นมาแล้วให้กด “FREE” และกด “INSTALL” อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟนของเรากด "FREE" และกด "INSTALL" อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟน
5. ก่อนดาวน์โหลดเราต้องใส่ itunes ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดครับ
6. หลังจากใส่ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดแล้วตัวโปรแกรม Eagle Eyes Lite ก็จะถูกติดตั้งลงบนไอโฟนของเราครับ
การเปิดใช้โปรแกรม Eagle Eyes Lite
1. หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรมแล้วให้เรากดเลือกที่ตัวโปรแกรมเลยครับ (สัญลักษณ์รูปหน้านกเหยี่ยว)
2. หน้าแรกที่เราจะเห็นคือส่วนของ address book ให้เรากดเครื่องหมาย + ด้านล่างเพื่อใส่ที่อยู่ข้อมูลการดูกล้องวงจรปิดของเราครับ
3. หน้าต่อไปที่จะขึ้นมาคือหน้าที่ใช้ป้อนข้อมูลครับ (ส่วนของข้อมูลการเรียกดูนั้น ip address, port, username, password คุณจะได้รับจากทีมงานของ บ.ลิงค์มาสเตอร์ ตอนที่ติดตั้งเสร็จครับ หรือสามารถโทรถามได้ที่บริษัทโดยการแจ้งชื่อวันที่ติดตั้งเสร็จและหมายเลข ลูกค้าครับ) หลังจากที่ป้อนข้อมูลเสร็จแล้วให้กด save ครับ
สังเกตได้ว่าจะมี account ที่เราเพิ่งใส่ข้อมูลไปปรากฏอยู่บนหน้า address book หากต้องการแก้ไขให้กดรูปดินสอด้างล่าง หากต้องการที่จะลบ account นั้นทิ้งให้กดที่รูปถังขยะครับ ถ้าทำตามขั้นตอนแล้วระบบมีการเซ็ตอย่างถูกต้องก็จะสามารถดูภาพจากระบบวงจรปิดที่ทางทีมงานเราไปติดตั้งครับ

แจ้งเอาไว้ตรงนี้เลยนะครับ สำหรับท่านที่ซื้อกล้องวงจรปิดจากที่อื่นมา แล้วดูผ่านอินเตอร์เน็ทไม่ได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไม่ต้องโทรมาปรึกษาเรานะครับ
ไปซื้อที่อื่นถูกๆมาแล้วคนขายเค้าไม่ดูแล ก็โทรมาถามเราว่าทำยังไง...หากเป็นเงื่อนไขแบบนี้ผมขออนุญาติไม่ตอบนะครับ
ไม่ใช่ว่าแล้งน้ำใจ แต่ผมก็ต้องเลี้ยงลูกน้อง ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ จะเอาเวลาที่ไหน?
ไปซื้อมาจากที่ไหน ก็ให้ร้านนั้นดูแลครับ

วันๆนึงผมก็ต้อง support ลูกค้าเก่า ไหนจะลูกค้าใหม่ วันนึงโทรถามผมซัก 10 รายผมก็แย่แล้วครับ

ในเมื่อเวลาเรามีจำกัดจึงจำเป็นต้อง support ลูกค้าของทางบริษัทฯก่อน

หากไม่ใช่ลูกค้าเราแล้วทำไม่ได้ เราขออนุญาติไม่ตอบคำถามครับ ให้กลับไปถามร้านค้าที่ซื้อมา

แฟร์กับเรานิดนึงนะครับ


หากเป็นลูกค้าของเรา โทรมาได้เลยครับ เรายินดี support หากท่านทำเองไม่ได้ เราจะส่งช่างเข้าไปทำให้

(ปกติแล้ว ติดตั้งกับเรา ทางบริษัทฯ ทำให้ฟรีอยู่แล้วครับ)


ต้องขออภัยที่ต้องออกตัวแรง เพราะว่าวันนี้รับสายเรื่องนี้มากกว่า 20 สายแล้วครับ ด้วยความเคารพครับ

ก่อนที่จะตั้งค่าตามที่ผมแนะนำไป ท่านต้องมั่นใจว่าระบบวงจรปิดของท่านสามารถดูผ่าน Internet ได้อยู่แล้ว เพราะนี่คือขั้นตอนที่สองหลังจากที่ต้องทำให้ CCTV ดูผ่าน Internet ได้ก่อนนะครับ


หากท่านยังไม่สามารถดูกล้องวงจรปิดผ่าน Internet ได้ ไม่ต้องทำตามวิธีด้านบนนะครับ เพราะยังไงก็ไม่ได้แน่นอน เพราะว่าต้อง config router และ DVR ให้ดูผ่าน Internet ได้ก่อนครับ

==============================================================================================================

ตอนนี้มีโปรแกรมมาใหม่ครับ

เอาไว้ใช้กับ iPad โดยเฉพาะเลย เนื่องจากให้ความละเอียดที่สูงกว่าตัวเดิมมาก สามารถใช้ได้กับ iPad 1 และ iPad 2 เลยครับ

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเลยครับ

1. เข้าไปที่ App Store ใครยังไม่ได้สมัคร ก็ไปจัดการให้เรียบร้อยก่อนนะครับ
2. Search หาโปรแกรม - พิมพ์ Eagleeyes hd light หาให้เจอดังภาพ
3. กด Install ไปตามปกติ จนลงโปรแกรมให้แล้วเสร็จ
4.โปรแกรมหน้าตาแบบนี้ "HD" เปิดขึ้นมาใช้งานเลยครับ
5. เมื่อเรียกโปรแกรมขึ้นมาแล้ว หน้าตาจะเป็นแบบนี้ ต้องไปเพิ่ม DVR ของเรากันก่อน....กดเครื่องหมาย "+" ด้านล่าง
6. กรอกค่าที่เราให้ไป หรือลูกค้าเก่าโทรมาถามได้ครับ...เสร็จแล้วกด Save

7. ได้ DVR ของเราเพิ่มเข้ามาแล้ว... (ตรงคำว่า test)
8. เมื่อต้องการใช้งาน แตะลาก...แล้วปล่อยลงไป
9. ภาพก็ขึ้นมาแบบนี้
10. ซึ่งเราสามารถดู DVR แต่ละตัวให้เต็มจอได้ ด้วยการควบคุมจาก iPad

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

โปรแกรมแต่งภาพสไลด์ Proshow Gold

ProShow Gold
จิ้มที่ภาพเพื่อไปหน้าโหลดตัวทดลองใช้ได้เลยค่ะ


มาดูวิธีทำสไลด์โชว์แบบง่ายๆ ต้มไข่ยังเสร็จช้ากว่ากันเลยค่ะ

ประโยชน์ของโปรแกรม
ProShow Gold : โปรแกรมที่ช่วยสร้างงานสไลด์โชว์ โดยเอารูปภาพมาทำเป็นสไลด์ สามารถเพิ่มเอฟเฟคอต่างๆได้มากมาย นำเพลงมาประกอบกับสไลด์ได้ตามต้องการ เพื่อสร้างสรรค์งานพรีเซ็นเตชั่น ในงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานวันเกิด ก็สามารถนำรูปภาพของคุณมาทำให้งานมีสีสันเพิ่มขึ้น  สามารถแปลงไฟล์เป็นรูปแบบต่างๆได้ เช่น VCD ,DVD หรือ EXE ฯลฯ งานของคุณจะมืออาชีพ

คุณสมบัติของโปรแกรม
โปรแกรมนี้ มีคุณสมบัติเป็น Shareware นะครับ ทางผู้พัฒนา โปรแกรม (Program Developer) เขาได้ท่านได้นำไปใช้กันก่อน 30 วัน หาก ถ้าท่านต้องการจะใช้ต่อกันในแบบ ตัวเต็มๆ (Full Version) หรือ แบบไม่มี การจำกัดเวลา (No Time Limit) ละก็ ท่านจะต้อง เสียค่าลงทะเบียน (Register) เป็นเงินจำนวน $69.95 โดยท่านสามารถที่จะติดต่อกับทางผู้พัฒนา โปรแกรมนี้ได้ทาง E-Mail :info@photodex.com (ภาษาอังกฤษ)

การทำงานของโปรแกรม

1. เลือกรูปที่เราต้องการจะเอาไปใส่ในสไลด์ไว้ในโฟลเดอร์หนึ่ง
หุหิหุหิ
 

2. เปิดโปรแกรมขึ้นมา แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่เราเก็บรูปเอาไว้


มีพี่บีมเป็นพรีเซนเตอร์อีกแล้ว
 


3. กด Ctrl+A เลือกรูปทั้งหมดทางด้านซ้าย แล้วจับลากมาลงใน timeline ด้านล่าง
 

4. จากนั้นก็จะเห็นพี่บีมสุดหล่อลงมาแอ้งแม้งใน timeline แล้ว ให้จัดการปลุกปล้ำ เอ๊ยไม่ใช่
จะเห็นว่ามีรูปพี่บีม และคั่นด้วยสัญลักษณ์ ซึ่งก็คือตัว Transition เวลาเปลี่ยนภาพนั่นเอง

 
กดเข้าไปจะมีสัญลักษณ์เยอะแยะตาแป๊ะไก่มาก ก็เลือกได้ตามใจชอบ หรือถ้าจะไม่ให้มีเอฟเฟกต์ก็เลือกตัวที่มีคำว่า cut อยู่ด้านใน
 
แต่! ในกรณีที่ทำสไลด์แล้วมีภาพเยอะๆ ขี้เกียจเลือกเอฟเฟกต์เปลี่ยนให้ปวดหัว เราขอแนะนำขั้นตอนง่ายๆ คือ
กด Ctrl+A >> จิ้มตรงสัญลักษณ์ >>เลือก random เลยค่ะ


5. ในกรณีต้องการเพิ่มลดระยะเวลาแสดงภาพหรือระยะเปลี่ยนภาพแบบทั้งหมด ให้กด Ctrl+A
คลิกตรงช่องเวลาแล้วกรอกตัวเลขที่ต้องการลงไป มันก็จะเปลี่ยนให้หมดทุกเฟรม
 
6. ถ้าต้องการใส่เพลง ก็หาเพลงที่ต้องการ แล้วลากไปลงในช่องเพลงได้เลย
 


7. จากนั้นก็ Creat Output (กดปุ่มบนแถบขวาสุด หรือไปที่ Ceate> Create Output หรือ Alt+O)
เลือก Output ตามต้องการ (จากที่ลองเซตค่าตามในรูป ก็พบว่าไฟล์วิดีโอชัดใช้ได้) รอเรนเดอร์ก็เสร็จแล้วค่ะ
 

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำควบคุมอัตโนมัติ

 BL 983315-1 เครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำควบคุมอัตโนมัติ - คลิกที่นี่เพื่อดูรูปภาพใหญ่
BL 983315-1 เครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำควบคุมอัตโนมัติ

รหัสสินค้า: 000077
ราคา 11,000.00 บาท
รายละเอียด: BL 983315-1 เครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำควบคุมอัตโนมัติ

รายละเอียดเครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำทั้งหมด

1. เป็นเครื่องมือวัดและควบคุมปริมาณของแข็งละลายน้ำทั้งหมด (TDS) ที่เหมาะกับงานทางด้านขบวนการผลิต โดยมีขนาด 49 x 79 x 95 มิลลิเมตร
2. สามารถเลือกตั้งค่าต่าง ๆ ด้วยระบบสัมผัส ซึ่งผลการวัดสามารถแสดงค่าออกมาเป็นตัวเลขไฟฟ้าระบบ LCD
3. สามารถวัดค่าปริมาณของแข็งละลายน้ำ (TDS) ได้ในช่วง 0.0 ถึง 199.9 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm) มีค่าความละเอียดเป็น 0.1 ppm และมีค่าความถูกต้อง 2% F.S. (4 ppm)
4. สามารถปรับเทียบแบบ Manual กันน้ำยามาตรฐาน 1 จุด
5. มีระบบชดเชยอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ อุณหภูมิจาก 5 ถึง 50 C ( = 2%)
6. ตั้งเครื่องแสดงสัญญาณ Alarm เมื่อค่าที่วัดได้มากกว่าค่าที่ตั้งไว้
7. อุปกรณ์ประกอบเครื่องมีดังนี้
7.1 หัววัดรุ่น HI 7634-00 (EC/TDS probe)
7.2 คู่มือการใช้งานภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษจำนวน 1 ชุด
8. ใช้กับไฟฟ้า 230 VAC 50/60 Hz
9. รับประกันคุณภาพ 1 ปี สำหรับตัวเครื่องและ 6 เดือนสำหรับหัววัดนับจากวันส่งเครื่องมือ
10. บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิต เพื่อการบริการที่ดีหลังการขาย
11. เป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศยุโรป

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บัฟฟาโล ไดรฟ์สเตชัน เวโลซิตี้ (Buffalo DriveStation Velocity)


กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--เดอะแวลลูซิสเตมส์
เดอะแวลลซิเตมส์ แนะนำ บัฟฟาโล ไดรฟ์สเตชัน เวโลซิตี้ (Buffalo DriveStation Velocity) สตอเรจจัดเก็บข้อมูลความจุสูงถึง 3 เทราไบต์ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด USB 3.0 ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนข้อมูลในระดับความเร็วถึง 5 กิกะบิตต่อวินาที ยังมาพร้อมกับชุดเครื่องมือ "TurboPC EX" เสริมพลังการจัดการข้อมูลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บัฟฟาโล ไดรฟ์สเตชัน เวโลซิตี้ (Buffalo DriveStation Velocity) เป็นไดรฟ์สำหรับใช้งานภายนอก มาพร้อมความจุขนาด 1 เทราไบต์, 2 เทราไบต์ และ 3 เทราไบต์ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติเฉพาะของบัฟฟาโลเป็นชุดเครื่องมือทีเรียกว่า "TurboPC EX" เพื่อการทำสำเนาและถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานผู้ใช้งานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลให้เพิ่มสูงขึ้น ฮาร์ดไดร์ฟที่ใช้ภายในมีความเร็วสูงที่ 7200 รอบต่อนาที อีกทั้งสามารถใช้งานได้ทั้งพอร์ต USB 2.0 และ USB 3.0
DriveStation Velocity ยังรองรับแอพลิเคชันการใช้งานสำรองข้อมูลของ Apple อย่าง Apple TimeMachine เป็นโซลูชันสำเร็จรูปที่สนองความต้องการของผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่หลากหลายที่ต้องการถ่ายโอนข้อมูลดิจิตอลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ เพลงโปรด ภาพถ่าย และวิดีโอได้อย่างง่ายดายและฉับไว
ส่วนการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบ Plug and Play เพียงแค่เสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยระบบความปลอดภัยที่ใช้งานได้ง่ายการเข้ารหัสตัวฮาร์ดแวร์โดยอัตโนมัติซึ่งจะช่วยการปกป้องข้อมูล อีกทั้งจากคุณสมบัติของ eco Manager และ SuperEco จะช่วยประหยัดพลังงานด้วยการควบคุมการใช้พลังงานและช่วยปิดการใช้งานให้ในทันทีที่ไม่มีการใช้งานตัวเครื่อง
บัฟฟาโล ไดรฟ์สเตชัน เวโลซิตี้ (Buffalo DriveStation Velocity) ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อทำให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการต่าง ๆ โดยทำให้สามารถทำงานร่วมกับทั้งคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์ วินโดว์ส และแม็ค โอเอส
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
  • TurboPC EX ชุดเครื่องมือเพื่อการทำสำเนาและถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง
  • ฮาร์ดไดร์ฟที่ใช้ภายในมีความเร็วสูงที่ 7200 รอบต่อนาที
  • ถ่ายโอนดิจิตอลคอนเทนต์ได้ในระดับความเร็วสูงถึง 5 กิกะบิตต่อวินาที
  • รองรับการทำงานในระบบเก่าคือ USB 2.0 ได้
  • คุณสมบัติของ eco Manager และ SuperEco ช่วยประหยัดพลังงาน
คุณสมบัติทั่วไป
Internal HDD
  • Number of Drives : 1
  • Hard Drive Sizes : 1TB / 2TB / 3TB
  • Disk Roatation Speed : 7200 RPM
USB Interface
  • Standard Compliance :
  • Universal Serial Bus 3.0 Specification Revision 1.0
  • Universal Serial Bus Specification Revision 2.0
  • Number of Ports : 1
  • Data Transfer Rate :
  • USB3.0 : Max. 5.0Gbps
  • USB2.0 : Max. 480Mbps
  • USB1.1 : Max. 12Mbps
  • Dimensions (WxHxD) : 39 × 123 × 189 mm
  • Net Weight : 0.95 kg
  • Temperature :5-35°C
  • Humidity : 20-80% (Non-Condensin)
  • Power Consumption : Max. 18W, - Average 12W
  • Standby Energy :150 mW (Super eco Mode)
  • Consumption Current :1500 mA (AC Adapter maximum output)
  • Power supply : AC100 - 240V 50/60Hz
  • Warranty : 3 Year